ดราม่าสนั่น โรนัลโด้นั่งสำรอง วันนี้เราจะมาพูดถึง ทีมชาติโปรตุเกส ที่เจอกับ ทีมชาติสวิซเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565 เกมส์ศึก ฟุตบอลโลกปี2022 ที่กาตาร์ ทีมชาติโปรตุเกส ถล่มไปได้ครึ่งโหล ทำเอาแฟนบอลหูตาสว่างขึ้นมาทันที เพราะเป็นคู่สุดท้ายก่อนเข้ารอบ 8 ทีม ถล่มยับจนไม่คิดชีวิต มีทั้งแฮคทริค มีทั้งครองบอลโชว์ เล่นยังปิดสวิชส์ เข้ารอบได้อีกด้วย line up ออกมา ไม่มี คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ เป็นตัวจริง ทำเอากลายเป็นประเด็นอย่างร้อนแรงกันเลยทีเดียว แต่บทสุดท้าย กลับกลายเป็นดี และยังเป็นความสนุกสนาน เร้าใจ ของแฟนบอล ทีมชาติโปรตุเกส อีกด้วย ทำให้มีแต่คนพูดถึง ว่าทำไม คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ ถึงไม่มีรายชื่อ ติดเป็นตัวจริง เดี๋ยวเรามาคุยยกัน เกมส์นี้โปรตุเกสเอาชนะไปได้แบบครึ่งโหล และวางแผนการคุมเกมส์มาอย่างดี ทำเอา ทีมชาติสวิซเซอร์แลนด์ เจาะไม่เข้า หรือ บุกไม่ขึ้นเลยก็ว่าได้ ผลที่ออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจของ แฟร์นานโด ซานโตส กุนซือของ

ดราม่าสนั่น โรนัลโด้นั่งสำรอง ทีมชาติโปรตุเกส เขาใช้แผนการเล่น 4-3-1-2 คอสต้า ผู้รักษาประตู เปเป้ , รูเบน ดิอาส , ดิโอโก้ ดาโลต์ , ยืนคลุมประตูด้านหลังอย่างแน่นหนา ใครผ่านได้นี่ต้องเร็วสุดๆ ส่วนกลางนั้นมี โอตาวิโอ , วิลเลียม คาร์วัลโญ , แบร์นาร์โด้ ซิลวา 3ตัวนี้สร้างรูปเกมส์ เพื่อจ่ายหน้าเป้าให้กับ บรูโน แฟร์นันด์ส ยืนบน คู่กับ เชา เฟลิกซ์ ส่วนอีกตัวนึง ต้องจดจำเขาอย่างดีเลย เพราะเกมส์นี้ เขามายืนแทนที่ คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ แถมยังมีของดีติดตัว เล่นดี การครองบอลดี แถมพริ้วไหว ดั่งสายน้ำเลยทีเดียว ใครเอาเขาอยู่นี่ต้องนับถือในความเหนื่อยล้า คือ กอนซาโล รามอส เด็กคนนี้มีของเหลือเกินที่มาแทน คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ ทำเอา ทีมชาติสวิซเซอร์แลนด์ ได้เจอกับนักเตะคนนี้ ที่สามารถเจาะทะลุ เข้าไปทำประตูได้อีกด้วย ทีมชาติสวิซเซอร์แลนด์ ได้เจอฝันร้ายตั้งแต่ เริ่มเกมส์ในนาทีที่ 17 เพราะ เชา เฟลิกซ์ จ่ายให้ กอนซาโล รามอส พลิกแล้ว ซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งจังๆเข้าเสาแรกของประตู คมกริบอย่างกับมีด ผู้รักษาประตูของ ทีมชาติสวิซเซอร์แลนด์ ว่าเหนียวๆ ก็ ยังรับลูกยิงของเด็กคนนี้ไม่ได้อีกด้วย มีมุมแค่นั้นแต่ยิงเข้าอย่างสวยงาม ความเร็วของการยิงลูกนี้นั้น คร่าวๆ 65/ชม. ถือว่าแรงสุดๆ ส่วนต่อมาเป็นลูกที่สอง ยิงได้ในนาทีที่ 33 เป็นการเปิดมุมของ บรูโน แฟร์นันด์ส นักเตะจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เปิดบอลอย่างเหมาะเจาะ มาเข้าหัว เปเป้ อายุ 39 นักเตะจากปอร์โต้ ที่โหม่งเข้าไปอย่างสวยงามเลยทีเดียว และทำให้หนีห่างเป็น 2 ประตู ต่อ 0

เปเป้เป็นนักเตะที่โดนด่าม่า ว่าแก่เกินวัย แต่เขายังโชว์ฟรอมการเล่นได้อย่างดี ยอดเยี่ยม ทำให้ผู้คนที่เคยว่าเขา กับอึ่งไปเลยทีเดียว ซึ่งจบครึ่งแรกไป ทีมชาติสวิซเซอร์แลนด์ ก็ฝันผวา เพราะเป็นฝ่ายโดนบุกอยู่ฝ่ายเดียว อาจจะมีสวนบ้างแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พอเริ่มเกมส์ครึ่งหลัง ทีมชาติสวิซเซอร์แลนด์ พยายามบุกเพื่อทวงประตูคืนอย่างหนัก แต่ทีมชาติสวิซเซอร์แลนด์ เปิดเกสม์มากเกินไป

ในนาที 51 บอลอยู่ที่ ดิโอโก้ ดาโลต์ ครองบอลมาทางฝั่งขวาโยกหลอก หนึ่งจังหวะและ ปาดเข้ากลาง ทำให้เด็กหนุ่มที่หลายคนจับตามอง คือ กอนซาโล รามอส เข้ามาจิ้มบอลเข้านำ เป็น 3 ประตู ต่อ 0 เลยทีเดียว

แถมจะตอกตะปปุปิดเกมส์เลยก็ว่าได้ ต่อมาในนาทีที่ไม่มา ทีมชาติโปรตุเกส บุกมาอีกครั้ง กอนซาโล รามอส ไหลไห้โล่งๆกับ ราฟาเอล เกร์เรโร จนทำเข้าประตูไปเป็น 4 ประตู ต่อ 0 อย่าง่ายๆเลยทีเดียว

ในนาที 58 ทีมชาติสวิซเซอร์แลนด์ ได้ประตูตีไข่แตก จากลูกเตะมุมของ ชากิลี่ เปิดเข้ากลางบอลเข้าเท้า คันหลี่ และยิงเข้าประตูไป เป็น 4 ประตูต่อ 1

ต่อมาในนาทีที่ 67 การแจ้งเกิดของ กอนซาโล รามอส จังหวะบุกของทีมชาติโปรตุเกส เชา เฟลิกซ์ ไหลบอลให้กับ กอนซาโล รามอส หลุดไปและซัดบอลเข้าประตูให้ ทีมชาติโปรตุเกสนำ 5 ประตู ต่อ 1

และเขายังได้แฮคทริค 3 ลูก จากนักฟุตบอลที่เคยพึ่งลงเล่นเป็นตัวจริงอีกด้วย ซึ่งถือว่าตอนนี้ เขาโดนจับตามองอย่างแน่นอน แค่นัดนี้นัดเดียว เขาได้ขึ้นไปลุ้น เป็นดาวซัลโว เลยก็ว่าได้

ต่อมาในนาทีที่ 74 ก็เปลี่ยนตัวเอา คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ ลงมาแทน และแฟนบอลหลายๆคนส่งกำลังใจเชียร์และส่งเสียงเชียร์อย่างกระหึ่มดังไปทั่วสนามเลย

เรียกชื่อเขาทั้งสนามเลยทีเดียว ในนาทีที่ 92 ราฟาเอล เกร์เรโร เล่นกับ ราฟาเอล เลเอา และปั่นโค้งๆ เข้าประตูไปอย่างสวยงาม ทำให้ขึ้นนำเป็น 6 ประตู ต่อ 0